วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Karok Guide Pillar


Karok Guide Pillar and Cestus



        Karok โดยภาพรวมเป็นตัวละครที่มีระบบการเล่นที่สมบูรณ์แบบเพราะไม่ว่าจะเป็นการโจมตี หรือการป้องกัน และการเอาตัวรอด Karok สามารถเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์และมีความคล่องตัวสูงรวมถึงสกิลบัพต่างๆที่ช่วยส่งเสริมทั้งตนเองและปาร์ตี้ โดย Karok จะแบ่งออกเป็น 2 สายคือ ซุง (Battle Pillar) และ สนับ (Cestus)




       ใน Guide นี้ผู้เขียนขอใช้ "คำศัพท์ง่ายๆ" ไม่ขอใช้ "คำทางการ" ใดๆทั้งสิ้นและจะอธิบายเฉพาะ Skill ที่จำเป็นและควรอัพเท่านั้นเพราะว่าในเกมส์ได้อธิบายไว้หมดแล้ว
        
       **นอกจากนี้ผู้เล่นต้องหาแนวทางและสไตล์การเล่นของตนเองด้วย

       **ซุง และ สนับ จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป

       สไตล์การเล่นของ Karok นั้น ทั้ง 2 สายจะคล้ายคลึงกันแต่จังหวะการเข้าตีและจังหวะการหลบจะไม่เหมือนกันส่วนความยากง่ายนั้นขึ้นอยู่กับทักษะของคนเล่นด้วยคะ


       **Karok ที่ดีต้องมีสกิลดังต่อไปนี้ เพราะฉะนั้นพวกเราชาว Karok ทุกคนต้องอัพให้เต็ม



Clash : เป็นสกิลที่ทำให้เราจับบอสให้เพื่อนรุมกระหน่ำดาเมจใส่บอสรัวๆ

**ปล.เรื่อง Clash นั้นอยู่ที่ความรู้สึกและประสบการณ์ล้วนๆคะหากถามว่า Clash ยังไงผู้เขียนก็ตอบได้แค่ว่า กด E ค่ะ 5555555+


                         Shout : เป็นสกิลที่บังคับให้บอสหันมาใช้ท่าที่เราสามารถ Clash ได้


Stalwart : มีโอกาส 8% ที่จะโจมตีโดยไม่สนพลังป้องกัน 8% ของเป้าหมาย


Big-Boned : มีโอกาส 15% หากเราได้รับดาเมจ (กรณี Absorb พลาด) ที่จะลดดาเมจ 30%


Howl : เป็นสกิลที่ช่วยล้าง De-Buff ให้กับตนเองและปาร์ตี้

ปล.สกิลนี้จะสามารถใช้ได้ก็ต่อเมื่อเราหรือคนในปาร์ตี้ได้รับ De-Buff ประเภท Dot-Damage




       หากพร้อมแล้วมาเริ่มที่สายแรกกันเลยค่ะ !!



         Karok สาย Pillar เป็นสายที่เล่นค่อนข้างง่ายและมีความต่อเนื่องในการทำดาเมจมากกว่าสายสนับแต่เล่นน่าเบื่อกว่ากว่าสนับมากเล่นไปเล่นมาจะหลับ (ความเห็นส่วนตัวของคนเขียนนะ)


         **ข้อดี : Karok สายนี้จะมีรัศมีการโจมตีที่กว้างและครอบคลุมในรศมีรอบตัวนอกจากนั้น ทีเด็ดของ Karok มีการป้องกันที่สมบูรณ์กว่าหลายๆอาชีพทั้ง รุก และ รับในเวลาเดียวกันนั่นก็คือสกิล Absorb Shock

         **ข้อเสีย : ด้วยความที่ว่าอาวุทของ Karok นั้นต้องใช้พละกำลังในการถือเป็นอย่างมากทำให้การ Motion เหวี่ยงซุงนั้นมีความช้าถึงจะมีค่า Attack Speed ที่สูงแล้วก็ตามและการใช้ Smash บางจังหวะนั้นไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ทำให้บอสหลบหลีกการโจมตีของเราได้ง่าย เพราะซุงนั้นเหมาะแก่การสู้กับบอสที่ตัวใหญ่และเชื่องช้า (Havan) เพราะหากบอสตัวเล็กเราจะตี "ลำบาก" อย่างเช่น "Iset"   

         
                  

      
Absorb Shock (สกิลสำคัญ)

         แนะนำว่าควรอัพให้เต็มเป็นสกิลแรกๆเลยยิ่งดีค่ะ
     
         แล้วสกิลนี้ทำงานยังไง ? 
                   หากบอสโจมตีเราไม่ว่าจะเป็นดาเมจหนักขนาดไหนสกิล Absorb จะช่วยลดดาเมจใน Hit นั้นๆและได้จะ Recovery HP ให้เราอย่างรวดเร็วพูดง่ายๆก็คือลดเท่าไหร่ก้เพิ่มกลับเท่านั้นนั่นหมายความว่าไม่เสียเลือดเลยแต่ในกรณีบางท่าก็ไม่สามารถ Absorb ได้เช่นกันผู้เล่นจึงต้องใช้ทักษะของตัวเองในการหลบ
    

Beast Stance (สกิลสำคัญ) **Stance เป็นการ Smash เพื่อให้ได้ Buff พิเศษ
        
        แปรงร่างเป็นสัตว์ป่า กรี๊ดดดดด (หลอก)

        Karok นั้นจะมี Stance อยู่ 3 Stance โดยผู้เล่นสามารถพลิกแพลงได้ตามสถานการณ์

                            Rhino Stance : ฟื้นฟู Stamina 7 แต้มทุกวินาที
                   
                            Bison Stance : เพิ่ม Attack Speed 5%

                            Mammoth Stance : เพิ่ม Damage 5%

       แล้ว Stance ต่างๆทำได้ยังไง?

       ก่อนอื่นต้องมี 2 สกิลนี้ด้วยค่ะ นั่นก็คือ Dropkick กับ Barrage  (สำคัญมากๆ)
       
       **สำคัญยังไง?
                  เพราะว่าในการเข้า Stance แต่ละ Stance นั้นเราต้องทำการ Smash ตามเงื่อนไขของสกิลจากนั้นให้เราใช้ Barrage เพื่อเข้า Stance ที่เราต้องการและ 2 สกิลนี้คือสกิลหลักในการเข้าและเปลี่ยน Stance ดังกล่าว
    


  **แล้ว Smash ที่ว่าต้องใช้อันไหนบ้างละ ?



Rhino Stance : ทำได้โดยการใช้ Smash Rhino Gore แล้วใช้ Barrage


Bison Stance : ทำได้โดยการใช้ Smash Bison Charge แล้วใช้ Barrage
**หากอยู่ใน Bison Stance จะทำให้ motion ของ Karok นั้นไวขึ้นด้วย
(เหมือน Werewolf Paw)


Mammoth Stance : ทำได้โดยการใช้ Smash Mammoth Force แล้วใช้ Barrage

**ท้ายที่สุดแล้วการ Dropkick ก็จะช่วยทำให้เปลี่ยน Stance ได้โดยจะเรียงลำดับ 
Rhino > Bison > Mammoth วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ

หากงงให้ดูคลิปนะคะ >> https://youtu.be/N15XUpaFDMo

**เพิ่มเติมอีกนิด ตอน Barrage จะสามารถทำได้ 2 ครั้งในครั้งแรกจะแสดง Stance ตามที่เราคอมโบและต้องโดนเป้าหมายด้วยหากวืดไม่โดนอะไรเลยก็จะไม่ได้ Buff ของ Stance นะคะ


Crushing Sweep (สกิลสำคัญ)

          เป็นการใช้ Pillar ทิ่มลงบนพื้นแล้วลากวนรอบตัวทำความเสียหายโดยรอบ



War Slam (สกิลสำคัญ)

          เป็นการใช้ Pillar ทุบลงที่พื้นความเสียหายค่อนข้างรุนแรง


          
          **Tip หากเราใช้ War Slam ครบ 5 ครั้ง เราจะได้บัพ Deadly Stomp ซึ่งส่งผลทำให้สกิล Crushing Sweep, Dropkick, Jumbo Punch และ Pillar Toss แรงขึ้นซึ่งจะแรงขึ้นเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับว่าเราทุบ War Slam ได้กี่ครั้ง
        
          **เพิ่มเติม : หากเราใช้ Crushing Sweep ต่อจาก War Slam เราจะไม่ติด Cooldown ของตัวสกิล Crushing Sweep




Bone Fracture (สกิลสำคัญ)
          
          ในทุกๆการโจมตีจะโอกาส 6% มีจุด Mark จุดสีแดงเกิดขึ้น

          แล้วจุดสีแดงคืออะไร ?



**จุดจะถูก Mark อยู่ที่ตัวบอส 


Boar Crush (สกิลสำคัญ)

          ด้วยผลของสกิล Bone Fracture สกิล Boar Crush จะช่วยสร้างความเสียหายเพิ่มเติม 12% พร้อมมีเสียงกระดูกแตก (สะใจมว๊ากกกกก)





**แล้วการโจมตีของเราจะแรงขึ้น 12% (ตัวเลขสีเหลือง)
                            
                                                     

Earthquake (สกิลสำคัญ)
          
          ใช้ Pillar ทุบลงพื้นสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงเป็นวงกว้าง


Whirlwind (สกิลสำคัญ)
    
         ใช้ Pillar เหวี่ยงรอบตัว 6 Hit ในแต่ละ Hit จะได้ Stamina คืน 

         **ปล.ถ้าเหวี่ยงไม่โดนก็เสียสกิลฟรีนะคะและก็ไม่ได้ Stamina ด้วย 5555+


Pillar Counter (สกิลสำคัญ)

         สกิลนี้เป็น Passive ที่จะทำงานตามเงื่อนไขต่างๆ
           

              - เมื่อเราทำการ Smash แล้วศตรูโจมตีเราในขณะที่เรายังไม่จบ Motion ของ Smash                          นั้นๆฝ่ายตรงข้ามจะได้รับดาเมจ
               
              - เมื่อผลของ Absorb Shock ทำงานในระหว่างที่เรายังไม่จบ Motion ของการ Smash                        ฝ่ายตรงข้ามจะได้รับดาเมจเช่นกัน 

              - สกิล Bone Fracture จะทำงานทันทีหากผลของ Pillar Counter ทำงาน !!



Rolling Strike (สกิลสำคัญ)

          เป็นสกิลที่ใช้ Dodge ของ Karok ในระหว่างการ Dodge นั้นจะทำดาเมจใส่ศตรูด้วยเช่นกันยิ่งอัพเยอะจะช่วยลด Stamina ที่ใช้พร้อมทั้งยังเพิ่มความเสียหายของสกิล
          
          **เวลา Dodge ใส่ศตรูมีโอกาศติด Bone Fracture ด้วยนะคะ 5555+

        

Pillar Toss (สกิลสำคัญ)

          กด Tab เพื่อโยน Pillar ไปในเส้นทางที่เราต้องการสร้างความเสียหายค่อนข้างรุนแรงและ Karok จะได้รับสถานะ Giant Stance 


วิ่งเร็วขึ้น 10% เพิ่ม Attack Speed 40 แต้ม และเพิ่มค่า Max Stamina 100 หน่วย




         **ปล.เวลาเราโยนซุงไปแล้วให้หากเรากด Dodge ผ่านซุงแล้วกด E ตัวละครจะเก็บซุงได้เร็วกว่าเดินไปเก็บดื้อๆ 5555+


Unarmed Combat (มองผ่าน)

         เป็นสกิลที่หลังจากเราใช้สกิล Pillar Toss เราจะเข้าสู่สถานะ Unarmed Combat ทำให้ตัวละครชกได้รุนแรงขึ้นในขณะที่ไม่มีซุงอยู่ในมือ !!??


Grizzly Sprint (จะอัพไม่อัพก็ได้) **ส่วนตัวถึงอัพเต็มก้ไม่ค่อยได้ใช้อยู่ดี

         หลังจากใช้สกิล Pillar Toss หากเรากด Tab ตัวละคร Karok จะวิ่งไปเก็บ Pillar ของตัวเองในระหว่างระยะการวิ่งนั้นหากมีศตรูอยู่ในเส้นทางจะสร้างความเสียหาย 


มาต่อกันด้วยสายที่สองนะคะ !!




          Karok สาย Cestus เป็นสายที่เล่นค่อนข้างยากกว่า Pillar พอสมควรเพราะหากจะทำดาเมจได้สูงนั้นต้องอาศัยทักษะและความชำนาญของผู้เล่นค่อนข้างสูง



         
         **ข้อดี : Karok สาย Cestus จะมีรัศมีการโจมตีที่กว้างและคลอบคลุมในรัศมีรอบตัวด้วยสกิลประเภท Blast ต่างๆและมีความคล่องตัวสูงกว่าสาย Pillar มีสกิลที่รุนแรงมากอย่างเช่น 
Big Bang และไม่ต้องทำค่า Critical ให้สูงมากเพราะ Karok สายนี้จะมี Buff Destroyer ซึ่งทำให้ผลลัพธ์การโจมตีประเภท Smash ทุกอย่างนั้นติด Critical 

         **ข้อเสีย : Karok สาย Cestus มีความคล่องตัวสูงก็จริง  แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความต่อเนื่องของดาเมจซึ่งทำได้ยากกว่าสาย Pillar และต้องใช้การหลบหลีกมากกว่า  นอกจากนั้นยังต้องใช้ความชำนาญในการบริหาร Stamina ของ Karok พอสมควร  เพราะ Karok นั้นเหนื่อยง่ายมาก

  
         **หัวใจสำคัญในการเล่นสาย Cestus นั้นอยู่ที่การเลี้ยงบัพ Critical (Blast : Destroyer)

         ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับบัพทั้ง 3 กันก่อนนะค่ะ

         

สิ่งที่ต้องใช้ควบคู่คือการม้วนรับ (Weaving) กับพุ่ง (Bobbing) และ Conversion


Conversion (สกิลสำคัญ)
        
            ทำให้บัพต่างๆมีผลนานขึ้นตาม Rank ของสกิล


Weaving (สกิลสำคัญ)
           
            กด Dodge เพื่อม้วนรับการโจมตีจากศตรู ในระหว่างที่ Karok กำลังม้วนตัวจะเป็นเฟรม Absorb และได้ Gauge Blast ขั้นที่ 1 นั่นก็คือ Terror Rush ครั้งที่ 2 จะเป็น Crushing Strike 
และครั้งสุดท้ายจะเป็น Destroyer


Bobbing (สกิลสำคัญ)
            หลังจากกด Weaving แล้วสามารถกด Bobbing ได้อีก 2 รอบ ใน 2 รอบนี้จะสามารถรับการโจมตีได้อีก 2 ครั้งเพราะกด Bobbing 1 ครั้งนั้นจะนับเป็นการ Absorb 1 ครั้ง ดังนั้นหากใช้ครบ 3 ครั้งเราก้จะได้บัพ Destroyer มาได้อย่างไม่ยากเย็น

            - เมื่อเราทำการกด E บึ้มออกไปแล้วเราจะได้บัพตามสีนั้นๆ เป็นเวลา 1 นาที

แล้วบัพต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งมั้ย ?
            
            - บอกเลยคะ ว่าไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเหมือน Stance ของ Pillar เพราะเราสามารถใช้บัพทั้ง 3 อย่างได้เลย


Blast Mastery (สกิลสำคัญ)

           ทำให้การ Blast (กด E) หลังจาก Smash นั้นรุนแรงขึ้น
            

Blast Charge (สกิลสำคัญ)

           ทำให้ Karok สามารถ Charge Gauge บัพของตนเองได้
          
           **ครั้งที่ 1 Terror Rush > 2 Crushing Strike > 3 Destroyer


Gigantic Strength (สกิลสำคัญ)

           ทำให้ Karok ได้รับสถานะได้รับดาเมจทุกอย่างลดลง 34% และส่งผลให้ได้รับบัพ Blast ทั้ง 3 อย่างและมีบัพ Destroyer ที่พร้อม Stanby รอใช้งานทันที

            
**อ่านตรงนี้ซักนิด

           **ช่วงแรกที่ยังไม่คล่องอาจจะทำให้สู้สายที่ทำค่า Critical โดยตรงยังไม่ได้แต่ฝึกในระดับที่ชำนาญแล้วจะทำดาเมจได้สูงกว่าสายที่ค่า Critical มาโดยตรงเพราะว่าค่า Critical ถึงจะทำมา Cap ของบอสตัวนั้นก็ไม่ได้หมายว่าจะ Critical เสมอไปและผู้เล่นต้องทำค่า Attack Speed สูงพอสมควรเพราะค่า Attack Speed คือส่วนหนึ่งในการเลี้ยงบัพด้วยเช่นกัน


Big Bang Attack (สกิลสำคัญ มากๆๆ)

            กดคลิ๊กขวาค้างแล้ว Karok จะรวบรวมประจุพลังไปที่ Cestus แล้วทำการยิงออกไปเป็นเส้นตรงไม่สามารถควบคุมให้เลี้ยวได้และไม่สามารถผ่านสิ่งกีดขวางได้

            **เจอคนถามเยอะมากทำไมใช้แล้วมันไม่แรง ??

            Big Bang นั้นจะแรงไม่แรงขึ้นอยู่กับ Guage Blast ของเราความแรงของ Big Bang นั้นจะแรงสูงสุดที่บัพของ Destroyer (มือสีฟ้า) แต่ก็ยังไม่แรงก้เพราะว่ามันไม่มีติด Critical เพราะฉะนั้นหากเราคิดจะใช้ให้แรงเราต้องวางแผนให้ดีๆ ค่ะ 

            **แรงได้อีก ด้วยสกิล Raging Volcano และ Cataclysm !!


Raging Volcano (สกิลสำคัญ)

             Karok ใช้ Cestus ทุบลงบนพื้นและสร้างความเสียหายแบบสุ่มให้กับศตรูในหน้าจอแล้วหลังจากนั้นจะเป็นการเปิดใช้งานสถานะ Cataclysm


Catalysm (สกิลสำคัญ)

             ด้วยสถานะ Cataclysm ทำให้ Karok สามารถ Blast แบบ Double Hit ได้ และส่งผลให้
สกิล Big Bang ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นอย่างมาก


             **คอมโบง่ายๆคะให้กด Ragning > Gigan Str > Big Bang รับรองคะสะใจ !!


Clean Hit (สกิล Passive สำคัญ)
           
             ทำให้การโจมตีในทุกการกระทำของ Karok นั้นสามารถติด Double Hit ได้ 
(ดาเมจสีเหลือง) 

             **ปล.สกิลนี้จะไม่ทำงานกับสกิล Big Bang


Brutal Flurry (สกิลสำคัญ)

             เป็นสกิลติดตัวที่ทำให้เราสามารถชกแบบรัวๆได้โดยใช้คู่กับ Bobbing แล้วกดคลิ๊กซ้ายหากชกโดนเป้าหมายจะทำให้ Karok ได้ Stamina คืน

             **ทำไมชกไม่เร็วเลย?

                 - ต้องเข้าใจก่อนว่า Bobbing นั้นสามารถพุ่งได้ 2 ครั้งแล้วหากเราพุ่งครั้งแรกแล้วกดชก Karok จะชกช้ามากๆแต่ถ้าหากเราพุ่ง Bobbing ครั้งที่ 2 แล้วชก Karok จะชกเร็ว

                 - ตอนกดคลิ๊กขวาค้าง (ค้างแปบเดียวนะไม่ถึงกับนาน) ตัว Karok จะโยกตัวเหมือน Foot Work ของนักมวยให้สังเกตุดีๆ ตอนที่ตัวเราโยกหัวรัวๆแล้วเรากดชกแล้วเรากดคลิ๊กซ้ายรัวๆ เราจะชกเร็วมาก หากเรากดคลอ๊กซ้ายตอนที่ Karok โยกหัวช้าๆ Karok จะชกช้า 


Diamond Rush (สกิลสำคัญ)

             หลังจากเรา Smash สกิลนี้จะเหมือนของ Blast แต่สกิลนี้เรากด R แทนจะเป็นการบึ้มออกไปข้างหน้าเหมือนกันแต่อันนี้จะเบากว่า แต่จะได้ Stamina คืนหลังจากโดนเป้าหมาย

             **ปล.ลากศตรูมาเยอะๆแล้วกดทีเดียว Stamina เต็มหลอดคะ




**เขียนโดย ZAADZ Guild aLaMuze
Vindictus NA : East Ch.194




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น